กระเป๋าหนังแท้ กระเป๋าหนัง PU ต่างกันอย่างไร
ปกติแล้วกระเป๋าหนังจะแบ่งออกตามลักษณะของหนังที่ใช้เป็น 2 ประเภท คือหนังแท้ ซึ่งได้จากหนังสัตว์ เช่น หนังวัว หนังแกะ หนังม้า หนังจระเข้ ส่วนหนังเทียม หรือหนัง PU ย่อมาจาก Polyurethane ซึ่งถูกผลิตขึ้นโดยกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์ โดยใช้พลาสติกประเภท PU ในการผลิต ซึ่งมีลักษณะลวดลายคล้ายหนังแท้มาก โดยมีคุณสมบัติสามารถระบายอากาศได้ดีไม่แพ้กับหนังแท้ ข้อดีสำคัญคือ ราคาไม่แพง และเหมาะกับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ หรือไม่ชอบกลิ่นของหนังแท้ แต่หลาย ๆ คนอาจคิดว่ากระเป๋าหนัง PU นั้นเป็นกระเป๋าหนังเทียมคุณภาพถูก ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้วหนัง PU ยังมีหลายเกรดตามคุณภาพการผลิต หากเป็นหนัง PU ที่มีคุณภาพจะนุ่มและคงทน ใช้ได้นาน ในขณะที่กระเป๋าเกรดต่ำสุดนั้นจะเป็นประเภท PVC ซึ่งเป็นเพียงพลาสติกหนา ๆ เท่านั้น ไม่ใช่หนัง
วิธีดูกระเป๋าหนังแท้ กระเป๋าหนัง PU
การจะรู้ว่ากระเป๋านั้นทำมาจากหนังแท้จริงหรือไม่ สามารถทำได้โดยการสังเกตดังนี้
ดูจากสายตา : หนังแท้คือหนังที่ได้จากสัตว์ ดังนั้นย่อมมีความเป็นธรรมชาติสูง ลวดลายบนผิวหนังแท้จึงไม่เป็นระเบียบ เล็กใหญ่ ไม่เท่ากัน ส่วนหนังเทียม หรือหนัง PU จะมีลายที่เป็นระเบียบเท่ากันทุก ๆ พื้นที่ของหนังดมกลิ่น : หนังแท้ส่วนใหญ่ผ่านกระบวนการฟอกหนังเพื่อให้มีคุณสมบัติพร้อมสำหรับทำตัวกระเป๋า เช่น กลบรอยแผลบนหนัง หรือทำให้มีสีตามต้องการ ดังนั้น หนังแท้ส่วนใหญ่จะมีกลิ่นของน้ำยาฟอกหนังอยู่ ส่วนหนังเทียมจะเป็นกลิ่นของสารเคมีและพอลิเมอร์แทนการคืนตัวของผิว : หนังแท้จะมีการคืนตัวค่อนข้างต่ำ หากเอามือกดหนังแท้จนเกิดรอย หนังแท้จะคืนตัวยาก ดังนั้นหากเกิดรอยพับบนหนังแท้ จะเห็นว่าเป็นรอยระยะเวลานานมาก เราจึงมักเห็นหนังแท้ส่วนใหญ่มีรอยพับ รอยย่นเยอะ แต่หนังเทียมคืนตัวง่ายและเร็ว
นำไปลนไฟ : หนังแท้จะค่อนข้างทนไฟ เมื่อถูกลนด้วยไฟ หนังแท้จะไม่เป็นอะไร หรืออาจเกิดรอยจาง ๆ เล็กน้อย แต่จะไม่มีการหดตัวหรือเปลี่ยนรูปของหนัง ส่วนหนังเทียมพื้นฐานกระบวนการผลิตมาจากพอลิเมอร์ ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายพลาสติก เมื่อโดนไฟจึงหดตัว หรือบิดเปลี่ยนรูป
น้ำหนัก : หนังแท้จะมีน้ำหนักมากกว่าหนังเทียมพอสมควร เนื่องจากหนังเทียมมีส่วนผสมของพลาสติก ทำให้มีความเบากว่า
เมื่อโดนน้ำ : สังเกตว่าหากเป็นหนังแท้เมื่อโดนน้ำจะเป็นคราบ จุดด่างดวง แต่ถ้าเป็นหนังเทียมมักจะกันน้ำเพราะถูกเคลือบมา (อย่างไรก็ตามไม่ควรนำกระเป๋าหนังเทียมไปแช่น้ำหรือโดนน้ำบ่อย ๆ เพราะทำให้หนังเสื่อมสภาพได้)
สี : หนังแท้เมื่อใช้ไปนาน ๆ ยิ่งเก่า สีจะเข้มขึ้นเรื่อย ๆ อันเป็นคุณลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งที่คนรักหนังแท้ชื่นชอบ เรียกว่ายิ่งใช้ยิ่งสวย หากได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง แต่กระเป๋าหนังเทียมคุณภาพก็จะลดลงตามการใช้งาน ยิ่งหนังคุณภาพต่ำ สีอาจจะลอก หรือมีรอยแตกได้ง่าย ๆ