วิธีดูแลรักษากระเป๋าหนัง
ก่อนอื่นเราควรรู้ว่ากระเป๋าที่เราใช้อยู่นั้นเป็นหนังแท้หรือหนังเทียม (หนังสังเคราะห์ หรือที่เรียกกันว่าหนัง PU) เพราะหนังทั้งสองแบบมีวิธีดูแลรักษาแตกต่างกัน [กระเป๋าหนังแท้ กระเป๋าหนังเทียม ต่างกันยังไง]
กระเป๋าหนังแท้ – หนังแท้จะมีความแข็งแรงทนทานกว่าหนังเทียม จึงมีราคาแพงกว่า และมีขั้นตอนการดูแลรักษามากกว่า โดยหลังใช้กระเป๋าเสร็จ นำสิ่งของออกจากกระเป๋าให้หมด แล้วเช็ดทำความสะอาดด้วยผ้าชุบน้ำหมาด ๆ จากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดอีกที ระวังอย่าให้กระเป๋าชื้น เพราะอาจทำให้กระเป๋าขึ้นราหรือสภาพหนังเสื่อมได้ แล้วใช้น้ำยาเคลือบหนังทาเบา ๆ จนทั่ว เก็บกระเป๋าไว้ในที่ที่แห้ง หากมีถุงผ้า ให้เก็บไว้ในถุงผ้าสำหรับใส่กระเป๋าโดยเฉพาะ ซึ่งเรียกว่า ถุงผ้าสปันบอน ซึ่งถุงประเภทนี้ลมผ่านได้น้อย จึงช่วยป้องกันฝุ่นละออง อย่าเก็บกระเป๋าไว้ในถุงพลาสติก เพราะอากาศที่ร้อนจะทำให้ตัวหนังกรอบแตกได้ หากเป็นกระเป๋าสะพาย กระเป๋าถือ ซึ่งต้องการรักษารูปทรงไม่ให้เสียง่าย ให้ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ (หรือกระดาษสีขาว สีน้ำตาลแทนได้ หากกลัวหมึกจากกระดาษหนังสือพิมพ์เปื้อนกระเป๋า) ขยำเป็นก้อน ๆ ขนาดกำปั้นหลาย ๆ ก้อน ยัดภายในกระเป๋าก่อนเก็บ และไม่ควรวางกระเป๋าเบียดซ้อนทับกัน เพราะจะทำให้กระเป๋าเสียทรง แม้จะยัดกระดาษไว้ข้างในแล้วก็ตาม ยิ่งถ้าเก็บไว้ในที่อับ อากาศไม่ถ่ายเท เช่น ตู้เสื้อผ้า อาจทำให้ความร้อนละลายสีเคลือบตู้ให้มาติดบนหนังกระเป๋าได้ หากกระเป๋าใบไหนไม่ค่อยได้ใช้ ก็ควรนำออกมาผึ่งลมบ้าง โดยตั้งไว้ในที่ร่ม แห้ง มีอากาศถ่ายเทสะดวก แต่ระวังอย่านำไปตากแดดหรือโดนน้ำ
กระเป๋าหนังโดนน้ำ ทำอย่างไรดี : ดังที่กล่าวไว้แล้วว่าหนังแท้ไม่ควรโดนความชื้น จึงควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่จะทำให้กระเป๋าหนังโดนน้ำหรือเกิดความชื้น เพราะจะทำให้ส่วนที่โดนน้ำนั้นสีเพี้ยน ซึ่งส่วนใหญ่สีจะเข้มขึ้น ทำให้เกิดจุดเข้ม ๆ บนตัวกระเป๋า วิธีแก้ไขคือ รีบใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดให้ทั่วทั้งกระเป๋า เพื่อให้สีของกระเป๋าเหมือนกันทั้งใบ จากนั้นใช้น้ำยาเคลือบหนังเช็ดอีกทีหนึ่ง แล้วเช็ดน้ำยาออกด้วยผ้าแห้ง เท่านี้กระเป๋าสตางค์หนังแท้ก็จะกลับมาสีสวยเนียนเหมือนใหม่อีกครั้ง
กระเป๋าหนังเทียม – คุณสมบัติของหนังเทียม หนังสังเคราะห์ หรือหนัง PU จะมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าหนังแท้ และดูแลรักษาง่ายกว่า คือใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดให้ทั่วหลังใช้งานก็เพียงพอ โดยไม่ต้องใช้น้ำยาเคลือบใด ๆ เพราะจะทำให้สารที่เคลือบบนตัวหนังเสียสภาพได้ ส่วนวิธีการเก็บรักษาโดยทั่วไปก็เช่นเดียวกับหนังแท้คือ เก็บไว้ในที่ร่ม ไม่ตากแดด และไม่อยู่ในที่อับชื้น หรือร้อนเกินไป เพราะความร้อนจะทำให้หนังแห้งกรอบเสื่อมสภาพ และนำมาผึ่งลมบ้างประมาณ 2-3 เดือนต่อครั้งหากไม่ค่อยได้ใช้งาน
หน้าที่เข้าชม | 150,557 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 119,009 ครั้ง |
เปิดร้าน | 31 มี.ค. 2561 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |